"เรามุ่งมั่นที่จะทำให้คนไทยเก่งขึ้น" คำขวัญประโยคนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นภารกิจอันยิ่งใหญ่ของพวกเราชาวซีเอ็ดทุกคนตลอดมาที่จะต้องเดินหน้าสานต่อแนวทางเพื่อสรรค์สร้างให้คำกล่าวนี้สำเร็จผลในทางรูปธรรม ซึ่งหากจะย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนซีเอ็ดเคยลองถามตัวเองว่าโจทย์สำคัญที่สุดของการพัฒนาประเทศอยู่ตรงไหน

 

               

 

        แล้วก็ต้องหันมามองอย่างพินิจพิจารณาว่าบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งมากว่า 37 ปี เน้นการนำปัญหาการพัฒนาบุคลากรของประเทศมาเป็นโจทย์ในการทำงาน โดยคิดว่าคนไทยจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยยึดติดกับภารกิจข้างต้น แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งทำไปทำมาผลการเรียนของเด็กไทยยังคงแย่ลงทุกปี เรียกได้ว่าต่ำกว่าเกณฑ์การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่กำหนด แม้ซีเอ็ดจะใช้กลไกต่างๆ เริ่มจากการเป็นสำนักพิมพ์หนังสือและนิตยสารเชิงวิชาการ สร้างศูนย์การเรียนรู้ Se-ed Learning Center เปิดโรงเรียนเพลินพัฒนา เดินสายธุรกิจผู้จัดจำหน่าย ขยายกิจการเปิดร้านขายหนังสือกระจายทั่วราชอาณาจักรเกือบ 500 สาขาก็ตาม สุดท้ายแล้วความรู้ต่างๆ ยังเข้าไม่ถึงตัวเด็กโดยตรง ยกเว้นเด็กที่สนใจอยากพัฒนาหรือผู้ใหญ่ที่ต้องการสร้างพัฒนาการแก่เด็ก เมื่อความรู้ทั้งหลายเข้าไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นจึงขอหยิบยกปัญหาด้านการศึกษามาตีแผ่แฉให้เห็นๆ เพื่อมองหาทางออกที่ยังพอมีแสงสว่างให้แก่เด็กนักเรียน โรงเรียน และคุณครูอาจารย์ได้ก้าวข้ามผ่านพ้นโจทย์ยากในครั้งนี้ไปได้แม้จะเป็นเพียงแค่ก้าวแรก

                

        เมื่อลองย้อนคิดไปถึงต้นตอของอุปสรรคในอันที่จะพัฒนาการศึกษาของไทยให้ก้าวไกลกว่าที่เป็นอยู่ว่ามีอะไรบ้าง ปัญหาแรกสุดที่ผุดขึ้นมาคือวิชาภาษาอังกฤษ ตามติดด้วยวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่ง 2 วิชาหลังยังถือว่าไม่น้อยหน้าชาติใดในโลกหากดูจากผลงานการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับโลกของเด็กนักเรียนที่มีเหรียญติดมือกลับมาฝากคนไทยได้ชื่นใจทุกครั้ง ลงท้ายก็ตัดสินใจเลือกภาษาอังกฤษที่เป็นยาขมตั้งแต่เล็กจนโตนี่แหละคือเรื่องที่เห็นสมควรแก่หยิบยกขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องรีบฟื้นฟูก่อนในอันดับแรก แล้วขยายผลสู่การแก้ไขปัญหาที่เริ่มจากขั้นต้นต่อเนื่องไปจนครอบคลุมถึงองค์รวมในอนาคต หากแก้โจทย์นี้ได้ก็จะสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นในใจของผู้บริหารโรงเรียนที่มีต่อซีเอ็ด ปมปัญหาประการต่อมาที่รอคอยการคลี่คลาย นั่นคือ ทำอย่างไรให้เด็กไทยเกิดความรู้สึกหรือทัศนคติที่ดีต่อวิชาที่ตนชื่นชอบ ร่ำเรียนด้วยความสนุกสนาน และตบท้ายด้วยการปลูกฝังให้รู้จักพัฒนาตนเอง รักษาระเบียบวินัย มีแรงบันดาลใจความมุ่งมั่นในอันที่จะมุ่งตามฝันให้พบตัวตนที่แท้จริง ถึงจะผิดพลาดบ้างแต่ก็พร้อมยอมรับแล้วลุกขึ้นสู้ต่อไป ที่สุดแล้วเด็กๆ กลุ่มนี้ย่อมจะเป็นกำลังสำคัญนำพาประเทศชาติของผองไทยรุ่งเรือง แต่กระนั้นก็ไม่สามารถปิดกั้นปณิธานอันแน่วแน่ที่จะก้าวไปให้ถึงฝั่งฝันในความมุ่งมั่นที่จะทำให้คนไทยเก่งขึ้น ซีเอ็ดจึงต้องทบทวนใหม่อีกครั้งโดยไม่รั้งรอ (ไม่ว่าจะนโยบายรัฐบาล งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ หรืออะไรอื่นใดทั้งสิ้น) ด้วยกำลังคน (แค่หยิบมือ) ของซีเอ็ดนี่แหละจะพลิกชะตาเปิดฟ้าการศึกษาไทยกับการริเริ่มโครงการที่ผ่านการทำวิจัยกลั่นกรองลองผิดลองถูกมาแล้วรอบด้านก่อนที่จะตกผลึกความคิดและแรงบันดาลใจออกมาเป็นโครงการใหม่ที่ชื่อว่า “Total Solution to English Proficiency” มุ่งนำประเด็นการศึกษาของประเทศด้านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าวิตกในระบบการศึกษาของไทยมาวิเคราะห์หาทางออกแบบครบวงจร โดยเน้นการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนครบถ้วนตามกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่ให้ผลสัมฤทธิ์สูงภายใต้ทรัพยากรในประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด วัตถุประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนาระบบการเรียนการสอนของครูให้สามารถถ่ายทอดความรู้ภาษาอังกฤษแก่เด็กไทยให้เก่งยิ่งขึ้น เพิ่มทักษะทุกๆ ด้านที่จำเป็นสำหรับการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ (Communicative English) ในชีวิตประจำวัน เช่น พูด ฟัง เขียน อ่าน และสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ (Academic English) เพื่อเตรียมความพร้อมเด็กไทยสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558